CD473

Tuesday, September 29, 2009

Thursday, August 27, 2009

Adaptation

· ศิลปิน (artist)
นฤมล ปัดสำราญ
· สาร (messages)
เอกลักษณ์ความเป็นไทย ประเพณี และศาสนา ให้เข้ากับโลกของศิลปะร่วมสมัย
· แนวความคิด (concept)
เอกลักษณ์ความสนุกของการแสดงหมอลำ
· สื่อที่เลือกใช้ (media)
ประติมากรรม
· วิธีการสื่อสาร (how to communicate)
ผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์ ได้แรงบันดาลใจมาจากการแสดงของวงดนตรีลูกทุ่งหมอลำที่ มีรูปแบบการแสดงที่สนุกสนาน มีลีลาการแสดงและเสียงดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ นฤมล ได้ถ่ายถอดงานประติมากรรม และ จิตกรรมโดยการนำตัวอักษรที่มีสีสันสดใสจากป้าย โฆษณาคณะเพลงลูกทุ่ง มาสร้างสรรค์เป็น รูปทรงกึ่งนามธรรม ที่ถ่ายทอด “ จังหวะ” และ “ ท่าทาง” เอกลักษณ์ความสนุกของการแสดงหมอลำ.
· เป็นการสื่อสารแบบทางตรงหรือทางอ้อม (direct or indirect communication)
การสื่อสารทางอ้อม (indirect communication)
· กลุ่มเป้าหมาย (target group)
บุคคลทั่วไป
· ความเชื่ีอมโยงทางสังคม วัฒนธรรม ความเชื่อ เศรษฐกิจ การเมือง ฯลฯ (relationship)
จากผลงานได้เชื่อมโยงวัฒนธรรมทางดนตรีลูกทุ่งและหมอลำกับคนในสังคมไทย ปัจจุบันรสนิยมการฟังเพลงของคนไทยได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศ เช่น เพลง K-pop J-pop ฯลฯ รวมทั้งเพลงสากลจากในประเทศของเราเอง เช่น Thai-pop ฯลฯ ซึ่งวัฒนธรรมเหล่านี้ได้ถูกตัดทอน วัฒนธรรมไทยออกไปเสียจนเหลือน้อยเต็มที และถ้าเป็นอิทธิพลจากเพลงต่างประเทศก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
กระแสการฟังเพลงของคนไทยทำให้ใครหลายๆคนหลงลืมศิลปะดั้งเดิมที่เราควรอนุรักษ์และหวงแหนเอาไว้แก่คนรุ่นต่อๆไป ได้แก่ เพลงลูกทุ่ง เพลงหมอลำ ฯลฯ เพลงเหล่านี้มีจังหวะทำนอง ที่สนุกสนาน สามารถแสดงออกด้วยท่าทาง เช่น ท่ารำของเพลงหมอลำ ซึ่งเป็นการแสดงออกแบบไทยประยุกต์แขนงหนึ่ง เป็นต้น โดยเราไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับชนชาติไหนๆ เพราะ เอกลักษณ์ของความเป็นไทยแบบลูกทุ่งและหมอลำมีเพียงหนึ่งเดียว ในประเทศเดียวของเราเอง
· ผล (result)
คนสังคมไทยตระหนักถึงวัฒนธรรมทางดนตรีลูกทุ่งและหมอลำ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยเราเองให้มากขึ้น

Wednesday, August 19, 2009

SHIGEO FUKUDA
ช่วงอายุ : 4 กุมภาพันธ์ 1932 - 11 มกราคม 2009
เสียชีวิตอายุ : 76 ปี
ประเทศ : ญี่ปุ่น กรุงโตเกียว
การศึกษา: ปริญญาบัตรจาก Tokyo National University of fine Arts and Music ในปี 1956
อาชีพ: นักประติมากรรม ,นักออกแบบกราฟิก และนักออกแบบโปสเตอร์
ประวัติครอบครัว : ครอบครัวของเขา(วัยเด็ก)มีธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตของเล่น
แนวความคิด :
เมื่อหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาเป็นผู้สนับสนุนศิลปะ Swiss Style(the minimalist Swiss Style) ของ Graphic Design
SHIGEO FUKUDA ได้กล่าวว่า “ ฉันเชื่อว่าการออกแบบต้องมีเกียรติยศ 30%, ความสวยงาม 20% ,ความไร้สาระ 50% นั้นเป็นสิ่งสำคัญ การให้ความบันเทิงแก่ความรู้สึกของคนทั่วไปมากกว่าความก้าวหน้าทางการออกแบบ ถ้าเขาเหล่านั้นหลุดออกจากความรู้สึกที่พึงพอใจกับผลงาน เขาเหล่านั้นก็จะติดกับภาพลวงตาที่เกิดขึ้น”
"I believe that in design, 30% dignity, 20% beauty and 50% absurdity are necessary. Rather than catering to the design sensitivity of the general public, there is advancement in design if people are left to feel satisfied with their own superiority, by entrapping them with visual illusion."
The New York Times ได้กล่าวถึงงานโปสเตอร์ของFukuda’s ว่า “ความคิดที่ซับซ้อนได้ถูกกลั่นกรองไปสู่สิ่งที่เรียบง่าย”
The New York Times

ลักษณะผลงาน : เขาสร้างสรรค์งานออกแบบลวงตา(Optical Illusions) โดยปกติแล้วผลงานของเขาจะเป็นงานออกแบบแสดงความหลอกลวง(Portray Deception) ยกตัวอย่างเช่น
· ผลงาน Lunch With a Helmet On เป็นงานประติมากรรม 3มิติ ที่สร้างสรรค์จากส้อม,มีด และช้อน และเมื่อมองผ่านเงานดำจะเห็นเป็นภาพเงาของมอเตอร์ไซค์


ผลงาน Lunch With a Helmet On

· ผลงานโฆษณาของเขารวมกับงานโปสเตอร์ “The Official Poster”สำหรับงานThe 1970 World’s Fair ใน Osaka

· ผลงาน“Victor 1945” หนึ่งในงานที่ดีของเขาที่เป็นแรงขับเคลื่อนและเปิดฉากของวงการกล้อง Canon

ผลงาน“Victor 1945”
· ผลงานโปสเตอร์ในวันเฉลิมฉลองในโอกาส Earth Day รวมทั้งการออกแบบแสดงถึงโลก ที่แสดงความรู้สึกขัดแย้งของน้ำทะเลที่มีสถานะของแข็ง ซึ่งมีพื้นหลังสีน้ำเงิน

· ผลงานในนิทรรศการ Shigeo Fukuda ในห้างสรรพสินค้า Keio ในปี 1975 เป็นภาพขาของผู้หญิงและผู้ชายที่ยื่นออกมาจากพื้นที่สีขาวและดำที่ค่อยๆเปลี่ยนภาพอย่างที่ไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัส เป็นวิธีที่เรียบง่ายโดยทำการซ้ำเกิดเป็น Pattern มันเป็นผลงานที่น่าเหลือเชื่อต่อการตอบสนองทางด้านอารมณ์ที่ก้าวร้าวรุนแรง



ผลงานในนิทรรศการ Shigeo Fukuda ในห้างสรรพสินค้า Keio ในปี 1975

· ผลงานโปสเตอร์ A 1980 ที่สร้างสรรค์สำหรับ Amnesty International ที่ได้ถูกถักทอด้วยลวดหนามกับตัว “S” ในคำว่า “Amnesty” ซึ่งเป็นสุดยอดของรูปแบบโปสเตอร์พันธนาการ

· ผลงาน “1982 Happy Earth Day” เป็นรูปขวานที่หัวหวานมีลักษณะขัดแย้ง โดยผลงานด้ามถือของขวานมีต้นอ่อนแตกกิ่งก้านขึ้นไปข้างบน


ผลงาน “Happy Earth Day”

· ผลงานโปสเตอร์สำหรับงาน the 2003 Icograda World Design Congress ใน Nagoya ประเทศ Japan




· ผลงานโปสเตอร์สำหรับ Cultural Diversity ใน the 2007 Icograda international exhibition

เหตุผลของตัวนักศึกษา
สนใจงานเกือบทุกแขนงที่เขาสร้างสรรค์แต่ที่ชอบเป็นพิเศษคืองานออกแบบโปสเตอร์จากผลงานที่แสดงความก้าวร้าวรุนแรง และคมคายในเนื้อหาที่เขาได้พยายามสอดแทรก ซึ่งสำหรับตนเองคิดว่าผลงานของเขาสามารถกระตุ้นอารมณ์ทางการสื่อสารได้มาก และถ้านักออกแบบไทยสามารถนำเอาวิธีถ่ายทอดการสื่อสารผลงานในลักษณะดังกล่าวมาใช้ในงานออกแบบบ้านเราให้มากขึ้น เราก็อาจจะเห็นมุมมองใหม่ๆ ทัศนคติใหม่ๆที่เกิดขึ้นในสังคมไทยเราบ้าง

ผลงานอื่นๆของ SHIGEO FUKUDA

Saturday, July 25, 2009

Thai Eco-Label


ใบไม้สีเขียวกับรูปวงกลม 4 อัน หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่สีเขียวบนโลกด้วยปัจจัยรักษ์โลก 4 R ได้แก่ Reduce Reuse Recycle และ Repair เป็นต้น


พื้นที่สีเขียวที่ล้อมรูปวงกลมเอาไว้ หมายถึง ใบไม้ล้อมโลกใบไม้ 1 ใบแทนที่ความหมายของต้นไม้ทุกต้นบนพื้นโลกที่คอยปกปักษ์รักษ์โลก และยังแสดงถึงนัยะของคนที่มีท่าทางโอบกอดรูปวงกลมหรือโลก



ธงชาติไทยปลายด้านหนึ่งของรูปธงโอบล้อมเป็นรูปวงกลม และปลายอีกด้านหนึ่งปล่อยชายเป็นรูปปีกนกพิราบ หมายถึง เราคนไทยทุกคนมีเสรีภาพในการแสดงออกร่วมกันในการรักษ์โลก
หมายเหตุ: สีของLogoแตกต่างจากต้นฉบับ

Friday, July 3, 2009

โครงการออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


โครงการออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 1
ชื่อโครงการ :
“อนาคอนด้า” อุปกรณ์ช่วยผลิตไฟฟ้าโดยดึงพลังงานจากคลื่นทะเล( Rubber 'snake' could help wave power get a bite of the energy market )
ที่มา :
Engineering and Physical Sciences Research Council
แนวความคิด :
การผลิตกระแสไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นพลังงานทางเลือกอีกทางหนึ่ง
เนื้อหา รายละเอียดของโครงการ :
เนื่องจากในท้องทะเลหรือมหาสมุทรจะเกิดคลื่นน้ำตลอดเวลา ทางนักวิทยาศาสตร์จึงมีการคิดค้นที่จะนำพลังงานจากคลื่นทะเลเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ในการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยอนาคอนด้าถือเป็นนวัตกรรมทางด้านพลังงานที่คิดค้นในประเทศอังกฤษที่มีราคาในการผลิตที่ไม่สูงแต่ประสิทธิภาพเยี่ยม ซึ่งวัสดุในการสร้างอนาคอนด้านั้นจะใช้ยางขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเป็นท่อเป็นวัสดุหลัก และเนื่องจากการใช้ยางมาเป็นวัสดุในการผลิตนั้นก็ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายที่ตามมาไม่สูงมากอีกด้วย มากไปกว่านั้น อนาคอนด้าถูกออกแบบให้ออกมาเพื่อง่ายต่อการดูแลรักษา และเป็นอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
อนาคอนด้ามีลักษณะเป็นท่อยางที่ปลายปิดทั้งสองข้าง โดยภายในจะมีน้ำอยู่เต็ม และในการทำงานนั้น ปลายข้างหนึ่งของอนาคอนด้าจะถูกยึดติดกับหลักที่อยู่ใต้น้ำ และปลายอีกข้างหนึ่งจะเป็นด้านปะทะกับคลื่นที่พัดเข้ามา เมื่อมีการพัดของคลื่นและเกิดการปะทะขึ้นที่ปลายด้านหนึ่งของอนาคอนด้า ตัวท่อก็จะเกิดการบีบอัดภายใน เนื่องจากแรงดันของคลื่นและเมื่อมีการซัดเข้ามาของคลื่นทะเลเรื่อยๆ ก็จะส่งผลให้เกิดการบีบอัดและเกิดแรงดันภายในท่อมากขึ้นเรื่อยๆ แรงดันเหล่านี้จะส่งผลให้กังหันน้ำที่อยู่ที่ปลายอีกด้านหนึ่งทำงานและส่งต่อพลังงานที่ได้ไปโรงงานที่ชายฝั่งผ่านทางสายเคเบิลเพื่อทำการผลิตกระแสไฟฟ้าต่อไป
ขณะนี้ อนาคอนด้ากำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและการทดลองโดยการผลิตอนาคอนด้าที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.25 และ 0.5 เมตร ไปทำการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานในสภาวะที่คลื่นพัดปกติ ไม่ปกติ หรือในสภาวะคลื่นที่แรงและสูงมาก ซึ่งจากการทดสอบทำให้ทางนักวิทยาศาสตร์ยังคงต้องมีการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเพื่อหาปัจจัยที่เหมาะสมในการผลิตอนาคอนด้าในการใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็น ปริมาณแรงดันภายในท่อที่เหมาะสม ขนาดของท่อที่จะทำให้การส่งผ่านพลังงานไปทางเคเบิลได้อย่างเต็มที่
โดยในแผนการผลิตคาดว่า อนาคอนด้าที่จะใช้งานจริงจะมีความยาวประมาณ 200 เมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 7 เมตร และจะถูกนำไปติดตั้งใต้น้ำที่ความลึกประมาณ 40-100 เมตร โดยอนาคอนด้าหนึ่งตัวจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าประมาณ 1 เมกกะวัตต์และเพียงพอต่อการใช้งานประมาณ 2000 ครัวเรือน โดยจะเสียค่าใช้จ่ายในการทำงานอยู่ที่ 6 เพนนีหรือประมาณ 3.75 บาทต่อกิโลวัตต์หรือน้อยกว่า ซึ่งถือเป็นอัตราค่าใช้จ่ายที่น้อยมากเมื่อเทียบกับโรงงานหรืออุปกรณ์ผลิตกระแสไฟฟ้าแบบอื่น นอกจากนี้อนาคอนด้าถือเป็นอุปกรณ์ในการช่วยดึงพลังงานคลื่นจากคลื่นทะเลที่มีน้ำหนักเบามากเนื่องจากทำมาจากยาง
โดยโครงการพัฒนาชิ้นนี้ได้เงินสนับสนุนมาจาก Engineering and Physical Sciences Research Council (EPSRC) ซึ่งในการพัฒนานั้นเป็นความร่วมมือของวิศวกรจากมหาวิทยาลัย Southampton ประเทศอังกฤษ และนักวิจัยทางด้านพลังงานของ CheckMate SeaEnergy
วิธีการแก้ปัญหา :
1. การเลือกใช้วัตถุดิบที่มีน้ำหนักเบามากเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายแต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพการใช้งาน
2. การผลิตกระแสไฟฟ้าแบบอื่นที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากกว่า ในอัตราค่าใช้จ่ายน้อย
ตัวอย่างและภาพประกอบ :

เจ้าของโครงการ :
วิศวกรจากมหาวิทยาลัย Southampton ประเทศอังกฤษ และนักวิจัยทางด้านพลังงานของ CheckMate SeaEnergy


โครงการออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 2

ชื่อโครงการ :
Kranthout (Newspaperwood)
ที่มา :
Graduate of the design academy in Eindhoven
แนวความคิด :
การนำเอาวัสดุที่เหลือใช้มาใช้ซ้ำ(Reuse)
เนื้อหา รายละเอียดของโครงการ :
ทุกวันนี้กองหนังสือพิมพ์จำนวนมากได้ถูกทิ้ง และรีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ Mieke Meijer บัณฑิตจากสถาบันออกแบบใน Eindhoven ได้คิดค้นผลงานที่มีชื่อว่า “Kranthout (Newspaperwood)” เพื่อแก้ปัญหา ในการใช้เศษกระดาษเหล่านี้ โดยเลือกใช้หน้ากระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว มาม้วนเข้าด้วยกันอย่างแน่นหนา ทำให้มีลักษณะทางกายภาพคล้ายท่อนไม้ ซึ่งกระดาษแต่ละแผ่นได้ถูกประกบเข้าด้วยกัน และใช้กาวน้ำพิเศษเป็นตัวเชื่อม เมื่อสิ้นสุดจะได้กระดาษที่มีลักษณะเป็นชั้นๆคล้ายลวดลายหรือวงปีของต้นไม้จริง ทั้งนี้จากผลงาน “Kranthout (Newspaperwood)” เราสามารถนำมาตัด, บด, ขัดด้วยกระดาษทราย และเก็บรักษาได้เหมือนไม้จริง
วิธีการแก้ปัญหา :
ใช้เศษกระดาษจากหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว (ผลงานนี้เพื่อมอบให้ประโยชน์แก่ Eindhovens Dagblad)
ตัวอย่างและภาพประกอบ :


เจ้าของโครงการ :
Mieke Meijer

Wednesday, June 24, 2009

งานtcdc

งาน TCDC




วันที่ไปงาน"ปล่อยแสง"




ผลงาน : Newpapers
เจ้าของผลงาน : สาธิมา กรุณามิตร


เนื้อหาของผลงาน
หนังสือพิมพ์การเมืองออนไลน์เพื่อคนรุ่นใหม่ “Demo Crazy”
ข้อคิดเห็น
ชอบผลงานนี้ เพราะ วิธีการนำเสนอที่มีลักษณะกวนๆสมกับชื่อหนังสือพิมพ์ “Demo Crazy” ออกจะขำขัน คายความรู้สึกตึงของสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน
ข้อเสนอแนะ : อยากเห็นงานในสื่อที่หลากหลาย


ผลงาน : แค่มีจินตนาการก็สร้างได้
เจ้าของผลงาน : นายธวัชชัย ไร่ดี

เนื้อหาของผลงาน

1.1 ปลั๊กกันน้ำ ปลั๊กกันน้ำ จับซ่อมได้ไม่ดูดไม่ช็อตไม่มีไฟฟ้ารั่ว กันน้ำพร้อมกับไม่มีวงจรอิเล็คโทรนิคไม่เพิ่มค่าไฟฟ้า เป็นการออกแบบระบบโครงสร้างภายในล้วนๆเด็กที่ซนๆไม่ต้องเกรงกลัวอีกแล้ว และสองรางวัลการรันตีจากสองประเทศ รองชนะเลิศอันดับหนึ่งระดับประเทศของไทย และรางวัลเหรียญเงินจากการแข่งขันสิ่งประดิษฐ์จากนักเรียน นักศึกษาจากทั่วโลกจากประเทศเกาหลีใต้
1.2 หลอดลอยน้ำ
1.3 รองเท้ากันแมลง รองเท้ากันแมลงสำหรับผู้ที่ถอดรองเท้าและกลัวมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในรองเท้าเพียงแค่ถอดรองเท้าแล้วดึงสายรูดผ้าที่ปิดขอบรองเท้าที่เลื่อนมาปิดช่อง เพียงแค่นี้ก็สามารถป้องกันแมลงเข้าได้แล้ว
ข้อคิดเห็น : ชอบผลงานนี้ เพราะ การช่างสังเกตถึงปัญหาใกล้ตัวของเจ้าของผลงานที่ได้ประดิษฐ์ผลงาน“แค่มีจินตนาการก็สร้างได้” ซึ่งเป็นการนำเสนอวิถีทางแก้ไขปัญหาทางเลือกหนึ่งแบบที่เรียกว่าปัญหาแบบสามัญๆ ที่คนสามัญๆ อย่างพวกเราไม่ค่อยสนใจ หรือตั้งใจแก้ไขอย่างจริงจังเป็นรูปธรรม
ข้อเสนอแนะ : การสร้างสรรค์ผลงานก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเรื่องไกลตัวเสมอไป

ผลงาน : Cardboard chair for kid
เจ้าของผลงาน : พีรวัชร์ ทะรักษา

เนื้อหาของผลงาน
ในปัจจุบันมีปัญหาสิ่งแวดล้อมมากมาย วัสดุที่นำมาผลิตเฟอร์นิเจอร์ จึงมีราคาสูงขึ้น เฟอร์นิเจอร์สำหรับเด็กนั้นมีระยะการใช้งานที่สั้น เพราะรูปร่างสรีระของเด็กนั้นมีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เฟอร์นิเจอร์ของเด็กจึงต้องเปลี่ยนไปตามช่วงอายุ จึงได้มีความคิดนำกระดาษลูกฟูกมาเป็นวัสดุในการออกแบบ เพรามีราคาถูกและสามารถนำไปรีไซเคิลได้เมื่อเลิกใช้แล้ว และยังมีความมั่นคงแข็งแรงคงทนเหมาะสมกับช่วงระยะการใช้งาน
ข้อคิดเห็น
ไม่ชอบงานชิ้นนี้ เพราะ อาจไม่เหมาะสมกับการใช้งานจริง เนื่องจากเด็กมีลักษณะนิสัยที่ซุกซน รักสนุก บวกกับช่างจินตนาการ ชอบลองผิดลองถูกไปเรื่อย ผลจากการที่เขาพยายามเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัว อาจสร้างความเลอะเทอะได้บ่อยครั้ง พร้อมกันนั้นการเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ลูกฟูกในจำนวนที่บ่อยมากเกินจำเป็นเพื่อป้องกันการหมกหมมของเชื้อโรคในลักษณะนี้ อาจมองว่าได้ไม่คุ้มเสียกันเลย
ข้อเสนอแนะ : ใช้วัสดุอื่นหรือใช้สารบางอย่างเคลือบวัสดุลูกฟูกที่ไม่เป็นอันตรายแก่เด็กและสามารถกันน้ำได้

---------------------------------------------

งานออกแบบที่ชื่นชอบ




For this project I set out to design a business card that a prospective client would want to keep on their table rather than in their pocket. The result was a business card that worked like a miniature house-plant, growing alfalfa or cress when dipped in water - a business card for 'another bloomin' designer'.The logo was also cut into a 'seed stencil' that allowed the logo to be grown on either earth or lawn; on uncut grass, the message would remain hidden until the area was mown.


ใครว่านามบัตร eco-design จะเป็นได้แค่การทำมาจากกระดาษรีไซเคิลและหมึกไร้สารพิษ
Jamie Weick แสดงให้เห็นว่านามบัตรก็สร้างโลกให้เขียวสดใสได้ ด้วยการแค่หย่อนลงไปในน้ำ รอสี่วัน ก็จะมีต้นไม้ขึ้นมา! น่ารัก ขี้เล่น ไอเดียเจ๋ง แล้วก็เพิ่มก๊าซออกซิเจนให้โลก!
ที่มา:http://www.jamiewieck.com/anotherbloomindesigner.htm



Outdry...winners Of Volvo Sportsdesign





Winners of Volvo SportsDesign “EcoDesign” Awards 2008 Announced Ceremony for 4th annual Volvo SportsDesign Awards held at ispo_winter 08 / Theme: “EcoDesign – Form follows Sustainability”
The results for the 4th annual Volvo SportsDesign Awards are in. Winners hail from France, Italy, Austria, Germany, Sweden and the U.S. At a grand ceremony at the ICM centre in Munich, the honorees received the internationally acclaimed design awards as part of the Volvo SportsDesign Forum.
The theme for the 2008 edition of the award is “EcoDesign – Form follows Sustainability.”
More than 300 internationally renowned companies and designers had submitted their works for consideration for the most acclaimed international awards in sports design. This year’s edition focused on innovative ideas in the eco design sector. Speaking on behalf of the entire jury, the head of the German Design Council, Andrej Kupetz, praised “all the submitted works for their internationality as well as their great amount of diversity that is unusual for a design award for sporting equipment. From an ecological perspective, the sports industry has made great progress. People are getting the message behind the EcoDesign theme. The blend of sustainability and design will continue to range high on the future agenda of designers and the entire industry.”
For more info: http://www.outdry.com/or http://www.ispo-sportsdesign.com/


--------------------------------------------------


การวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่อง
“โฮม เปิดหน้าต่างโลก(Home)”

เริ่มต้นเนื้อหาของภาพยนตร์ ได้กล่าวตั้งแต่การกำเนิดโลก(World) ตลอดจนไปถึงกำเนิดของทรัพยากรธรรมชาติและสรรพสิ่งทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น น้ำ ป่าไม้ ดิน แร่ธาตุ ภูเขา และสัตว์ชนิดต่างๆ เป็นต้น โดยสิ่งต่างๆทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแต่มีลักษณะการดำรงชีวิตแบบพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่เกิดมาอย่างไร้ประโยชน์ ทุกสิ่งย่อมมีประโยชน์ร่วมกัน เช่น ปะการังกับปลาในน้ำทะเล ธารน้ำแข็งกับประชากรใต้น้ำแข็ง เป็นต้น เมื่อก่อนหน้านี้ระบบนิเวศวิทยาอยู่อย่างสมดุล ปริมาณน้ำในทะเลมีจำนวนเท่าเดิมมาโดยตลอดและคงอยู่ในปริมาณเท่าเดิมมากว่าหลายพันล้านปี
เมื่อสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “มนุษย์” ได้ถือกำเนิดจากวิวัฒนาการหลายแสนปี มาพร้อมกับ “ความเจริญ” ก็ทำให้สิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศวิทยาทั้งหลายเกิดการเปลี่ยนแปลง และคำ 2 คำนี้ได้เปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆจนได้มาถึงขั้นวิกฤตเสียแล้ว เช่น การใช้ทรัพยากรธรรมชาติไปเป็นจำนวนมาก มากจนเกินความจำเป็น ทั้งนี้เพื่อสนองต่อกิเลส สนองความสะดวกสบายที่เกือบจะทุกคนถามหา หรือความอยู่รอดของตนเองเพื่อกระทังชีวิต โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่างๆที่ตามมาในภายหลัง ความฟุ่มเฟือยต่อมรดกทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด และมีอยู่มาตั้งแต่ 4 พันล้านปีมาแล้ว แต่มนุษย์เราสามารถทำลายทรัพยากรเหล่านี้ได้เกือบสิ้นซากในระยะเวลาแค่ 2 แสนปี มนุษย์ไม่สามารถทดแทนทรัพยากรเหล่านี้ได้ทันถ่วงที จนทำให้เกิดภาวะขาดสมดุลทางธรรมชาติ

ความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีต่างๆที่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระการดำรงชีพให้สะดวกสบายขึ้นสำหรับมนุษย์ เช่น การเปลี่ยนแปลงจากการเกษตรกรรมเป็นการอุตสาหกรรมเกษตร โรงงานต่างๆที่ใช้แรงงานเครื่องจักรแทนแรงงานคน จนทำให้ปิดฉากการล่าและการเก็บเกี่ยวที่ไม่แน่นอน ก่อให้เกิดการเหลือกินเหลือใช้จากประเทศที่ร่ำรวยต่างๆ และในระยะเวลาต่อมาเมื่อดินไม่สมบูรณ์ น้ำเริ่มขาดแคลน มนุษย์ก็ต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ตนสามารถมีกินมีใช้ ยกตัวอย่างเช่น การปลูกพืชกลางทะเลทราย การสกัดน้ำมันจากทรายน้ำมัน ทะเลสาบเทียม และอื่นๆ เป็นต้น การกระทำเหล่านี้ช่วยยื้อชีวิตแห่งความสะดวกสบาย แต่ไม่ได้ยื้อชีวิตของทรัพยากรธรรมชาติที่ร่อยเหรอ

ถ้ามองในมุมกลับกัน ประเทศที่ด้อยพัฒนา และประเทศที่กำลังพัฒนาประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ อาหาร และสาธารณูปโภคที่ถูกสุขลักษณะ พร้อมกับปัญหาการเพิ่มจำนวนประชากรอย่างรวดเร็ว พลังงานที่มีไม่เพียงพอ เกิดความเหลื่อมล่ำของคนรวยกับคนจนและจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้ง 2 ประเทศเหล่านี้ขาดการคุยกัน ขาดการแก้ปัญหาร่วมกัน และถ้ามองในแง่ดีการแก้ไขปัญหาต่างๆเหล่านี้ได้เกิดการแก้ไขร่วมกันแล้วจำนวนหนึ่ง ปัญหาภาวะขาดแคลนไปรับการแก้ไข ปัญหาจากผลกระทบภาวะโลกร้อนบรรเทาลง มนุษย์บางส่วนได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาเหล่านี้ มีโครงการต่างๆก่อตั้งขึ้นมากมายเพื่อสนับสนุน แต่เพียงเท่านี้จะเพียงพอกับความต้องการไม่รู้จบจริงๆหรือ เราได้แก้ปัญหาตรงจุดจริงๆหรือ และทิ้งไว้ซึ่งคำถามที่ว่าเราจะเขียนอนาคตร่วมกันอย่างไร ?

สรุป ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “Home” ได้กล่าวถึงเหตุแห่งปัจจัยต่างๆที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งสะท้อนให้ผู้ชมตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และชักชวนให้ร่วมกันอนุรักษ์ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับโลกซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยร่วมกัน ทั้งนี้เพื่อยืดอายุชีวิตของโลกเราไปอีกนานเท่านาน

การแสดงความคิดเห็น
วิธีการนำเสนอ การนำเสนอข้อมูลที่มีลักษณะเชื่อมต่อกันทั้งเรื่องแบบมีที่มาที่ไปอย่างชัดเจน ไม่กล่าวขึ้นมาลอยๆแล้วเปลี่ยนเรื่องไปดื้อๆ เหมือนสารคดีสัตว์ทั่วไป และลักษณะการนำเสนอแบบกล่าวโทษกับกล่าวดีสลับกันไปตลอดทั้งเรื่อง เพื่อให้ผู้ชมไม่รู้สึกว่าข้อมูลที่นำเสนอในเรื่องนั้นเอนเอียงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งมากจนเกินไป ทำให้ไม่สร้างความกดดันแก่ผู้ชมจนเกินไป
สิ่งที่ชอบ การเก็บภาพธรรมชาติที่มีความสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ และทำให้ผู้ชมได้มีความรู้สึกว่าโลกเรานั้นน่าอยู่ และสวยงามเพียงใด และสาเหตุใดที่จะไม่อยากให้ความสวยงามเหล่านี้คงอยู่กับเราไปอีกนานๆ
สิ่งที่ไม่ชอบ การนำเสนอเรื่องราวที่ฟังแล้วยังให้ความรู้สึกถึงปัญหาที่เบาบางอยู่บ้าง ถ้าเราให้เนื้อหาหรือใช้คำพูดที่ให้ความรู้สึกถึงความเลวร้ายจากปัญหาที่เกิดขึ้นมากกว่านี้อีกนิด อาจช่วยเพิ่มอัฐรสการชม และอาจสร้างความตระหนักให้แก่ผู้ดูได้มากกว่านี้ เพราะด้วยภาพที่สวยงามถูกนำเสนอให้ดึงดูดความสนใจของตัวเนื้อหาที่แท้จริงไปเสียเกือบหมด

Keyword 10 คำ
1.น้ำ:จุดเริ่มต้นของสิ่งมีชีวิตหรือสรรพสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้
2.ดิน:ทรัพยากรที่สำคัญ แต่ถูกทำลายไปอย่างน่าเสียดาย
3.ต้นไม้:เป็นสิ่งที่ทำให้สร้างความหลากหลายของสิ่งมีชืวิต
4.น้ำมัน:สามารถผลิตพลังงานมหาศาล
5.พระอาทิตย์:แหล่งพลังงานมหาศาล เป็นสิ่งที่มีส่วนทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
6.บรรยากาศ:ผลกระทบในทางอ้อมของการกระทำต่างๆของมนุษย์ของภาวะโลกร้อน
7.พลังงานทดแทน:พลังงานที่ได้มาจากการไม่เบียดเบียน หรือทำลายความสมดุลของธรรมชาติน้อยที่สุด
8.ประเทศด้อยพัฒนา:ประเทศที่ถูกเพิกเฉยจากความช่วยเหลือจากประเทศอื่นๆที่พัฒนาแล้ว
9.ความร้อน:ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน เช่น แก๊สคาร์บอนไดออกไซค์ แก๊สมีเทน ไฟป่า เป็นต้น
10.ตนเอง:สิ่งที่เราทำอะไรเพื่อรักษ์โลกใบนี้ได้บ้าง


Followers